หยุดวนลูป! ใช้ความรู้ PLC เก่าๆ แก้ปัญหาโรงงานไม่ได้? อัปเดตทักษะ 'เขียนควบคุม PLC' ที่โรงงานยุค 4.0 ต้องการ

ถ้าคุณยังแก้ปัญหาเครื่องจักรหยุดบ่อยๆ ไม่ได้... คุณกำลังขาดทักษะ 'เขียนควบคุม PLC' ที่เป็นระบบ! เผยวิธีคิดแบบมืออาชีพ ที่เปลี่ยนปัญหาจุกจิกให้เป็นโอกาสอัปเงินเดือน

ในยุคที่โรงงานอุตสาหกรรมกำลังก้าวเข้าสู่ระบบอัตโนมัติ (Automation) ทักษะหนึ่งที่กลายเป็น "ใบเบิกทาง" สำคัญสำหรับวิศวกรและช่างไฟฟ้าคือความสามารถในการสั่งการสมองกลของเครื่องจักร หรือที่เราเรียกกันว่าการ เขียนควบคุม PLC (Programmable Logic Controller)

บทความนี้สรุปแนวคิดและพื้นฐานสำคัญที่คุณต้องรู้ หากต้องการเปลี่ยนตัวเองจากผู้ดูแลระบบทั่วไป มาเป็นผู้ออกแบบระบบควบคุมที่แม่นยำ โดยอ้างอิงองค์ความรู้จากคอร์สฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการของสถาบัน Advance Electronic

 

1. PLC คืออะไร? เข้าใจ "สมอง" ก่อนเริ่มสั่งงาน

 

ก่อนจะไปถึงขั้นตอนการเขียนโปรแกรม เราต้องมองภาพรวมให้ออกว่า PLC เปรียบเสมือน "สมอง" ของเครื่องจักร โดยมีองค์ประกอบหลัก 3 ส่วนที่ต้องทำงานสัมพันธ์กัน:

  • Input (ส่วนรับสัญญาณ): เปรียบเหมือนตาและหู เช่น สวิตช์ปุ่มกด (Push Button), เซนเซอร์ตรวจจับวัตถุ (Sensor)
  • CPU (หน่วยประมวลผล): ส่วนที่เราต้อง เขียนควบคุม PLC ใส่เข้าไป เพื่อกำหนดเงื่อนไขว่า "ถ้า Input มาแบบนี้ จะให้ Output ทำงานอย่างไร"
  • Output (ส่วนสั่งงาน): เปรียบเหมือนแขนขา เช่น มอเตอร์หมุน, หลอดไฟติด, หรือแมกเนติกคอนแทกเตอร์ทำงาน

 

2. หัวใจสำคัญคือ "Logic" ไม่ใช่แค่การจำโค้ด

 

หลายคนเข้าใจผิดว่าการเขียนโปรแกรม PLC คือการท่องจำคำสั่งยากๆ แต่ในความเป็นจริง (และในคอร์สสอนจริง) จะเน้นเรื่อง "ลำดับความคิด" (Sequence Control) เป็นหลัก

ภาษาที่นิยมใช้ที่สุดคือ Ladder Diagram ซึ่งมีหน้าตาคล้ายวงจรไฟฟ้า ทำให้ช่างไฟเข้าใจได้ง่าย หลักการคือการวางเงื่อนไขแบบเป็นขั้นเป็นตอน เช่น:

“กดปุ่ม Start (Input X0) แล้ว -> ให้มอเตอร์สายพานทำงาน (Output Y0) -> เมื่อเซนเซอร์เจอของ (Input X1) -> ให้หยุดมอเตอร์ และแขนกลหยิบของทำงาน”

การฝึกเขียนควบคุม PLCที่ดี คือการแปลงโจทย์การทำงานของเครื่องจักรจริง ให้กลายเป็นแผนผัง Ladder นี้ให้ได้

 

3. ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ต้องรู้

 

ในการทำงานจริง เรามักจะเจอกับ PLC หลายยี่ห้อ แต่พื้นฐานที่นิยมใช้ในการเรียนการสอนและโรงงานส่วนใหญ่คือตระกูล Mitsubishi (เช่น FX Series หรือ FX5U) โดยใช้ซอฟต์แวร์อย่าง GX Works ในการเขียนคำสั่ง

สิ่งที่คุณต้องแม่นยำคือ

  • การ Wiring สาย: ต่อสาย Input/Output อย่างไรให้ถูกต้อง (Sink/Source) เพราะถ้าต่อผิดตั้งแต่แรก โปรแกรมที่เขียนมาดีแค่ไหนก็สั่งงานไม่ได้
  • Instruction พื้นฐาน: คำสั่ง NO/NC (ปกติเปิด/ปกติปิด), Timer (ตัวตั้งเวลา), Counter (ตัวนับจำนวน) เพียงแค่ 3-4 คำสั่งนี้ ก็สามารถสร้างระบบอัตโนมัติที่ซับซ้อนได้มหาศาล

 

4. จากทฤษฎีสู่การลงมือทำ (Practical Skill)

 

ความรู้จากการอ่านอาจทำให้คุณเข้าใจหลักการ แต่ "ทักษะ" เกิดจากการแก้ปัญหาหน้างานจริง การ เขียนควบคุม PLC ให้เก่งนั้น จำเป็นต้องเจอกับสถานการณ์จริง เช่น การเขียนโปรแกรมควบคุมแขนกล, ระบบสายพานลำเลียง, หรือการจัดการระบบนิวเมติกส์ (ลม) ร่วมกับไฟฟ้า

 

การเริ่มต้นศึกษา PLC ไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถ หากมีพื้นฐานไฟฟ้าและความเข้าใจในตรรกะการทำงาน สิ่งสำคัญคือการได้ลองต่อวงจรจริงและเห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับอุปกรณ์จริงๆ

สำหรับเนื้อหาในบทความนี้ ได้เรียบเรียงและอ้างอิงโครงสร้างหลักสูตรมาจาก Advance Electronic Training Center (คอร์ส AD03/Detail 69) ซึ่งเป็นแหล่งความรู้ที่เน้นการสอนแบบ "จับมือทำ" ตั้งแต่พื้นฐานจนถึงขั้นประยุกต์ใช้งาน

หากคุณอ่านแล้วรู้สึกว่าต้องการเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น หรืออยากลองจับอุปกรณ์จริงพร้อมมีผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำ เพื่อให้การ เขียนควบคุม PLC ของคุณเป็นมืออาชีพและนำไปรับงานได้จริง สามารถเข้าไปดูรายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของทางสถาบันครับ